วัดโพธิ์เก้าต้น หรือ วัดไม้แดง
7 กรกฎาคม 2560

วัดโพธิ์เก้าต้น หรือ วัดไม้แดง ตั้งอยู่ตรงข้ามอนุสาวรีย์วีรชน
ค่ายบางระจัน ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ ๑๕ กิโลเมตรเป็นสถานที่
ที่วีรชนชาวบ้่านบางระจันได้เคยใช้เป็นที่มั่นในการต่อต้านพม่า
ที่ยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา เมื่อปี พ.ศ.๒๓๐๘  ชาวบ้านเรียก
วัดนี้ว่า "วัดไม้แดง"

 

WatPhokaoton or Wat Maidaeng 

This monastery is opposite to Khai Bang Pachan Heroes 
Monument, about 15 kilometers from the provincial urban, 
It used to be the Bang Rachan Willagers' stronghold in fighting
against Burmese army which invaded Ayutthaya in 1865 ,
villagers called it another name as Wat Maideaeng.

/data/content/136/cms/dijmnovxz489.jpg



/data/content/136/cms/ghnopqrsz136.jpg


/data/content/136/cms/abdejmopqt34.jpg

                         พระอาจารย์ธรรมโชติ
        พระธรรมโชติ เดิมชื่อ โชติ ขณะบวชได้ฉายาทางพระว่า
ธรรมโชติรังษี พื้นเพเป็นชาวเมืองสุพรรณ ในยุคสมัยกรุงศรีอยุธยา
ตอนปลาย บวชเรียนแล้วจำพรรษา เป็นเจ้าอาวาสอยู่ ณ วัดเขาขึ้น
หรือเขานางบวช ท่านมีความรู้ด้านวิชากสิณ ด้านวิชาอาคมที่แก่กล้า
ด้วยทั้งพรรษาและวิชาต่างๆที่ได้ศึกษาฝึกพร่ำร่ำเรียนมา ใครเห็น
ล้วนแต่เกิดศรัทธา

          พระธรรมโชติ ตามประวัติเดิม พำนักอาศัยอยู่ ณ วัดเขา
นางบวช ต่อมาชาวบ้านบางระจันได้อาราธนาไปพำนักอยู่ ณ วัดโพธิ์
เก้าต้น จังหวัดสิงห์บุรี ด้วยเหตุที่พระอาจารย์ธรรมโชติมีวิทยาอาคมสูง
และได้ลงวิทยาอาคมกับผ้าประเจียด ตะกรุดพิสมร แจกจ่ายให้กับ
นักรบค่ายบางระจัน 

สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงพระนิพนธ์ในหนังสือไทย
รบพม่าว่า อาจารย์ธรรมโชตินั้นได้หายสาบสูญไปหรือจะมรณภาพใน
เวลาเสียค่ายแก่พม่า หรือหนีรอดไปได้หาปรากฏไม่แต่ตามความเชื่อ
และตำนานท้องถิ่นของชาวจังหวัดสุพรรณบุรีเล่าสืบต่อกันมาว่า เมื่อ
ค่ายบางระจันมีทีท่าว่าจะแตก ลูกศิษย์ ใกล้ชิดพระอาจารย์ธรรมโชติ
ก็ได้นิมนต์ท่านหลบหนีออกจากค่าย

สุดท้ายลูกศิษย์จำนวนหนึ่ง (ซึ่งไม่มากนัก เพื่อไม่ให้เป็นการแลดูน่า
สงสัยแก่ผู้พบเห็นทั่วไป) ได้พาท่านออกมาจากค่ายบางระจัน ชั่วครู่
ก่อนค่ายจะแตก แล้วลี้ภัยข้าศึกอยู่ในป่าเขาลำนำไพร

จวบจนสงครามสงบจึงกลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดเขานางบวช บ้างก็ว่า
หลังจากออกจากค่ายบางระจันมา ท่านก็ไม่ไปหลบอยู่ที่ไหน แต่ขอ
กลับมาอยู่วัดเขานางบวช วัดเดิมที่ท่านเคยจำพรรษาอยู่ 

โดยลูกศิษย์ทำช่องลับไว้ให้ท่านหลบอยู่บริเวณวิหารของท่าน(ซึ่งปัจจุ
บันยังคงอยู่) ไว้ให้ท่านนั่งเจริญสมาธิกรรมฐาน บำเพ็ญกุศล บำเพ็ญ
เพียรโปรดแก่เหล่าสรรพสัตว์ วิญญาณวีรชน และชาวบ้านบางระจัน




/data/content/136/cms/aeglorsuxz69.jpg


/data/content/136/cms/efhijksvwy78.jpg

                   บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ 

      อาจารย์ธรรมโชติ เป็นผู้มีความรู้ด้านอาคมและ สมุนไพรไทย
โบราณเป็นอย่างดี เมื่อสงครามที่พม่ายกทัพมาถึงบางระจันชาวบางระจัน
โดยชาวบ้านศรีบัวทองมีนายเมือง เป็นผู้นิมนต์ท่านมาอยู่ ณวัดโพธิ์เก้าต้น
ชาวบ้านหนีทหารพม่ามาอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก โรคภัยไข้เจ็บก็มีเกิดขึ้น
ความต้องการยาสมุนไพรน้ำมนต์ ก็มากขึ้น พระอาจารย์ธรรมโชติไม่มีภาชนะ
ที่ใหญ่พอกับความต้องการของชาวบ้าน โดยเฉพาะนักรบชาวบ้านที่ต้อง
การความเป็นศิริมงคลในการออกรบพระอาจารย์ธรรมโชติจึงทำน้ำมนต์
ใส่สระเพื่อให้พอกับความต้องการของชาวบ้าน น้ำในสระจึงมีความศักดิ์สิทธิ์
จวบจนปัจจุบัน 

                         ความเชื่อปัจจุบัน 

  ชาวบ้านสิงห์บุรี มีความเชื่อเกี่ยวกับบ่อน้ำ ว่า เมื่อขอพรได้สมดังที่
อธิษฐานไว้จะต้องมาหาบน้ำเพื่อแก้บน 

  ทั้งนี้ ชาวบ้านเชื่อว่า น้ำที่หาบมาใส่เป็นน้ำมนต์ ใครก็ตามที่หาบน้ำมนต์
มาเทใส่สระน้ำศักดิ์สิทธิ์ ก็จะบังเกิดผลเป็นสิริมงคลยิ่ง จนกลายเป็นประเพณี
กันมาอย่างต่อเนื่อง