ผู้กล้าแห่งบ้านระจัน ทั้ง ๑๑
31 สิงหาคม 2560
ประวัติผู้เป็นหัวหน้า ๑๑ คน ผู้กล้าแห่งวีรชนชาวบ้านบางระจัน
![]() ๑.นายแท่น เป็นคนบ้านศรีบัวทอง แขวงเมืองสิงห์บุรี เป็นผู้ที่มีความกล้าหาญและมีฝีมือ ในการวางแผนรบ จัดได้ ว่าเป็นแม่ทัพใหญ่อีกท่านหนึ่ง นายแท่น คุมพลเข้ารบกับทหาร พม่าหลายครั้งได้รับชัยชนะ ในการรบครั้งที่ ๔ ท่านคุมพล ๒๐๐ คน เป็นทัพหลวง ท่านคุมพล เข้าตีล่วงหน้าก่อน แล้วให้ทัพปีกขวาและ ปีกซ้ายเข้าตีโอบหลัง สนามรบคือฝั่งคลองทุ่งห้วยไผ่สะตือสี่ต้น ในการรบครั้งนั้นท่านได้รับชัยชนะและสามารถฆ่าแม่ทัพพม่า ได้คือ สุรินทร์ จอข่อง แต่ท่านก็ได้รับบาดเจ็บที่เข่า เนื่องจาก ถูกอาวุธของข้าศึกต้องหามกลับค่าย หลังจากนั้นท่านต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ในค่ายได้มินาน ก็เสียชีวิตเพราะพิษบาดแผล ทำให้ทุกคนในบางระจันเสียขวัญ กำลังใจเพราะขาดที่พึ่ง ๑ ใน ๑๑ ท่าน ทุกคน ในค่ายต้อง หลั่งน้ำตาในการจากไปของท่าน |
![]() ๒.นายอินเป็นคนบ้านศรีบัวทอง ที่มากับนายแท่น นายโชติ นายเมือง เป็นคนหนึ่งที่ร่วมกันฆ่าทหารพม่าในครั้งแรก แล้วมารวมกำลังตัั้งค่ายบางระจันขึ้น ณ วัดโพธิ์เก้าต้น ท่านเป็น ๑ ใน ๑๑ ผู้นำชาวบ้านที่ออกต่อสู้กับทหารพม่า ด้วยความกล้าหาญจนตัวตายในสนามรบ |
![]() ๓.นายโชติ เป็นคนบ้านศรีบัวทอง แขวงเขตเมืองสิงห์บุรี ติดต่อเมืองสุพรรณบุรี นายโชติได้รวมชาวบ้านที่ถูกกองลาด ตะเวณของทหารพม่าข่มเหง และให้ส่งหญิงสาวให้ในครั้งนัั้น ท่านกับพรรคพวกได้ลวง ทหารพม่าไปฆ่าได้กว่า ๒๐ คน จากนั้นท่าน และชาวบ้านจึง มารวมกัน ณ บางระจัน ท่านได้ต่อสู้กับทหารพม่าจนเสียชีวิต ในสนามรบ |
![]() ๔.นายดอก ท่านอยู่เมืองวิเศษไชยชาญ เมื่อกองทัพพม่า ยกมาล้อมกรุงศรีอยุธยา แม่ทัพพม่าสั่งให้กองทัพออกตีหัวเมือง ต่างๆ เมืองวิเศษไชยชาญจึงอยู่ในเป้าหมาย เมื่อกองทัพพม่าเข้าตี เมืองวิเศษไชยชาญแตก นายดอกจึงชักชวนชาวบ้านไปอยู่บ้านตลับ คือ บ้านตลับใน ปัจจุบัน กองทัพพม่าเที่ยวออกลาดตระเวณเป็นบริเวณกว้างทำให้ ชาวบ้านเดือดร้อน เพราะถูกทหารพม่าข่มเหงจึงชักชวนมาอยู่วัดโพธิ์ เก้าต้น ค่ายบางระจัน นายดอกเป็นผู้นำชาวบ้าน ท่านได้ร่วมรบกับ ชาวบ้านบางระจัน กองทัพพม่าบุกเข้าได้แล้วทำให้ท่านเสียชีวิต ในสนามรบ |
![]() ๕.นายทองแก้ว อยู่เมืองวิเศษไชยชาญ เมื่อถูกกองทัพพม่า ตีเมืองวิเศษไชยชาญแตกและยึดเมืองได้ นายทองแก้ว จึงรวบรวม ชาวบ้านหนีไปอยู่ที่บ้านโพธิ์ทะเล ท่านหนีออกมาคราวเดียวกับ นายดอก ต้องแยก ทัพกันอยู่ เพราะมีชาวบ้านจำนวนมาก |
![]() ๖.นายทองเหม็น เป็นชาวบ้านบางระจัน เข้าร่วมในค่าย บางระจัน และเป็นอีกท่านหนึ่งที่ร่วมวางแผนในการรบครั้งที่ ๔ ท่าน ทำหน้าที่ปีกขวา ร่วมกับนายโชติ นายดอก นายทองแก้ว คุมพล ๒๐๐ คน ไปข้ามคลองบ้านขุนโลก ตีโอบข้าศึก ผลทำให้พม่าแตกพ่าย และ ครั้งนี้ได้ฆ่าแม่ทัพพม่า คือ สุรินทร์จอข่อง ครั้งสุดท้ายพม่าทำการรบ แต่ในค่ายโดยยิงปืน ใหญ่ออกมา นายทองเหม็นสุดจะทน จึงได้คิดทำ การรบโดยร่วมกับพวกชาวบ้านบางระจันจำนวนหนึ่ง นายทองเหม็น ขี่กระบือเผือก ตลุยฝ่าค่ายพม่าถูกพม่าจับฆ่าตาย |
![]() ๗.ขุนสรรค์ วีรชนชาวบ้านบางระจัน จากเมืองสรรค์บุรี ได้ รวบรวมชาวบ้านต่อสู้กับทหารพม่าที่ยกทัพพม่ามาทางเมือง อุทัยธานี ท่านมีฝีมือในการยิงปืน เมื่อท่านกับชาวบ้านต่อต้านทหารพม่าไม่ไหวจึงชักชวน ชาวบ้านมารวมกันที่บางระจัน และได้ร่วมรบ กับชาวบ้านศรีบัวทอง ชาวเมืองวิเศษไชยชาญ ชาวบ้านที่รวมตัวกันอยู่ ณ วัดโพธิ์เก้าต้น ค่ายบางระจัน ท่านได้ให้ชาวบ้าน รวบรวมอาวุธต่างๆ ที่ยึดได้จากทหารพม่าใน การรบครั้งก่อนๆ ที่ได้รับชัยชนะ ครั้งหนึ่งท่านได้รวมกับนาย จันหนวดเขี้ยว ท่านได้ คุมพล ๑๐๐ คน ตีทัพของอาคา บัญคญี แตกพ่าย ท่านได้ร่วมรบจนกระทั่งเสียชีวิต |
![]() ๘.พันเรือง เป็นหัวหน้าหมู่บ้าน เมื่อถูกพม่าเข้าปล้นหมู่บ้าน หาข้าวปลาอาหาร ชาวบ้านถูกทหารพม่ารังแก ข่มเหง จึงได้รับ ความ เดือดร้อน นายพันเรือง นายทองแสงใหญ่ นายจันหนวดเขี้ยว ปรึกษา กันให้ชาวบ้านบางระจันทั้งหมดไปอยู่ในวัดโพธิ์เก้าต้น เป็นที่หลบซ่อน ทหารพม่าเพราะมีคลองธรรมชาติล้อมรอบถึง ๒ ชั้น และ รวมชายฉกรรจ์ในหมู่บ้านจำนวนหนึ่ง ซึ่งแบ่งกลุ่มกันออก ลาดตระเวณ หลอกล่อทหารพม่าให้หลงทางเข้าตีไม่ถูกนายพันเรืองยังเป็นผู้ออก ความคิดหล่อปืนใหญ่ เพื่อยิงทำลายค่ายพม่า จึงชักชวนชาวบ้านช่วยกันเสียสละทองเหลือง ทองแดง หล่อขึ้น ๒ กระบอก แต่ใช้การไม่ได้ อาจเป็นเพราะโลหะไม่เป็นชนิดเดียวกัน หรือ ไม่มีความชำนาญ ชาวบ้านต้องอยู่ในสภาพเสียขวัญกำลังใจและท่านได้ หลบหนีทหารพม่าในคราวค่ายแตกไปเสียชีวิตริมฝั่งคลอง หน้าวัดขุนสงฆ์ |
![]() ๙.นายทองแสงใหญ่ เป็นผู้นำระดับแนวหน้าและ ท่านเป็นผู้ที่คิดตั้งค่ายน้อยเพื่อลวงทหารพม่า ท่านคัดชาย ฉกรรจ์จำนวนหนึ่ง ตั้งค่ายขึ้นอีกค่ายหนึ่ง ซึ่งห่างจากค่าย ใหญ่ออกไป ในค่ายใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยคนแก่ทั้งชายหญิง เด็กเล็กและผู้ป่วยที่บาดเจ็บจากการสู้รบ และมีการเสียชีวิต ทุกวัน ท่านต่อสู้กับทหารพม่าด้วยกำลังที่มีอยู่ทั้งหมด |
![]() ๑๐.นายจันหนวดเขี้ยว เป็นคนบางระจัน ชอบไว้หนวดและ แต่งหนวดให้งอนดูเหมือนเขี้ยว ชาวบ้านจึงเรียกว่า นายจันหนวดเขี้ยว เป็นผู้กล้าหาญมีฝีมือในการต่อสู้ เป็นครูฝึกประจำหมู่บ้านให้เด็กหนุ่ม สาว เมื่อทหารพม่ามาข่มเหงชาวบ้าน เด็กหนุ่มที่ท่านฝึกให้รวมพลัง กันรบกับทหารพม่าจนได้รับชัยชนะ ท่านจึงให้พวกชาวบ้านไปรวมตัวกันอยู่ที่วัดโพธิ์เก้าต้น ครั้ง หนึ่ง กองทัพพม่ายกกำลังมามาก ท่าน ให้กองสอดแนมในค่ายออก ไปดูกำลังพลพม่าที่ยกมา เมื่อท่านทราบว่ากำลังพลไล่เลี่ยกัน ท่านคุมกำลัง ๑๐๐ คน แบ่งออกเป็น ๒ พวก เข้าตีกองทัพพม่า อาคา ปัญคญี เป็นแม่ทัพพม่าจนเสียชีวิตในที่รบ ครั้งสุดท้ายพม่าเปลี่ยน วิธีการรบ คือ พม่าสร้างค่ายเป็นสามค่ายมาเรื่อยๆ และยิงปืนใหญ่ออกมา ไม่ต้องออกมารบแทน จึงสร้างความกดดันให้ชาวบ้านบางระจันเป็น อย่างมาก นายจันหนวดเขี้ยว พร้อมกับชาวบ้านเข้าตีค่ายพม่า ในค่าย พม่ามีสุกี้เป็นแม่ทัพ ท่านถูกทหารพม่าฆ่าตายในสนามรบ |
![]() ๑๑.นายเมือง เป็นคนบ้านศรีบัวทอง ร่วมกับนายอิน นายโชติ นายแท่น และชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่ง ลวงทหารพม่า ไปฆ่า ท่านเป็นคนไปนิมนต์ พระอาจารย์ธรรมโชติ จากแคว้นเมือง สุพรรณ มาอยู่วัดโพธิ์เก้าต้น ค่ายบางระจันนายเมืองนำชาวบ้าน ในค่ายบางระจันออก ต่อสู้จนกระทั่ง เสียชีวิตในสนามรบ |