ความหมาย
เมื่อเดือน ๓ ปลายปีระกา พ.ศ. ๒๓๐๘ ชาวสิงห์บุรี เมืองวิเศษชัยชาญและสรรคบุรี โดยการนำ
ของคนไทยชั้น หัวหน้าสำคัญ ๑๑ คน ได้ซ่องสุมชาวบ้านรวม ๖๐๐ คน มาพึ่งพระอาจารย์ธรรมโชติผู้ทรง
วิทยาคมตั้งค่ายสู้รบกับทหาร ของเนเมียวสีหบดีแม่ทัพพม่าที่บ้านบางระจัน เขตเมืองสิงห์บุรี ด้วยความรักชาติ
สามัคคี และเสียสละ จนสามารถเอาชนะ ทหารพม่าได้ถึง ๗ ครั้ง แต่ด้วยกำลังพลและอาวุธที่เสียเปรียบมาก
ในการรบครั้งที่ ๘ เมื่อวันจันทร์ ปีจอ พ.ศ. ๒๓๐๙ พม่าจึงตีค่ายบางระจันได้สำเร็จ
รัฐบาลโดยกรมศิลปากร ได้สร้างอนุสาวรีย์วีรชนชาวบ้านบางระจันขึ้นเพื่อให้ลูกหลาน ไทยได้รำลึกถึง
ตลอดไป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดอนุสาวรีย์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๙
กรกฎาคม ๒๕๑๙ ทางราชการจังหวัดสิงห์บุรี พร้อมด้วยประชาชนทุกหมู่เหล่า ตำรวจและทหารสามเหล่าทัพ
ได้พร้อมใจกันทำ พิธีสักการะสดุดีวีรชนชาวบ้านบางระจันสิงห์บุรี ในวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ของทุกปี
รูปแบบ
เป็นรูปโครงร่าง ๑๑ วีรชนสีดำ อยู่บนพื้นสีแดงภายในโล่ (เครื่องป้องกันอาวุธ) ชนิดกลม ขอบโล่ถัดจาก
พื้นสีแดง มีวงกลมสีขาว สีน้ำเงิน และสีแดง มีขนาดและสัดส่วน เช่นเดียวกับพื้นแถบธงชาติไทยออกไปตามลำดับ
ใต้รูปโครงร่างวีรชน มีข้อความ จังหวัดสิงห์บุรี เป็นอักษรสีดำโค้งไปตามส่วนล่างของขอบโล่ กรณีประดับตราประจำ
จังหวัดบนผืนธงให้ตราอยู่ กึ่งกลางผืนธงพื้นสีแดงขนาดมาตรฐานธงชาติไทย และให้ตัดวงกลมสีแดงวงนอก
สุดออกเพื่อกลมกลืนกัน
เครดิต ข้อมูล http://www.singburi.go.th